1
ภาพจากการแข่งขันกระโดดสูงชายในโอลิมปิก 2020...

1
ภาพจากการแข่งขันกระโดดสูงชายในโอลิมปิก 2020 เป็นสิ่งที่หาดูได้ยากใน 'สนามแข่งขัน' เมื่อการแข่งขันเกิดขึ้นเพื่อหา 'ที่หนึ่ง' และเมื่อมีที่หนึ่งก็ต้องมี 'ที่สอง'

มีผู้ชนะก็ต้องมีผู้แพ้

แต่ไม่ใช่การแข่งครั้งนี้

...

2
สองสุดยอดนักกระโดดสูงจากกาตาร์และอิตาลีขับเคี่ยวกันแบบซัดกันไม่ลง ไต่ระดับจาก 2.19 เมตรจนถึงความสูง 2.37 เมตร--ทั้งคู่ทำได้งดงาม เสมอกัน

ความสูงถัดไปคือ 2.39 เมตร

มูตาซ เอสซา บาร์ชิม จากกาตาร์โดดก่อน--ไม่ผ่าน

จานมาร์โก แทมเบรี จากอิตาลีโดดบ้าง--ไม่ผ่านเช่นกัน

ตามกติกาคือต้องโดดกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ผู้ชนะ

ไม่มีใครรู้ว่าแข่งไปเรื่อยๆ จะบาดเจ็บหรือเปล่า

กรรมการเข้าไปถามทั้งคู่ว่า "จะแข่งกันต่อไปเรื่อยๆ เพื่อหาผู้ชนะไหม" บาร์ชิมจากกาตาร์ถามกรรมการด้วยคำถามนอกกรอบอย่างยิ่งว่า "Can we have two golds?" -- "เราได้เหรียญทองด้วยกันได้ไหม" ที่จริงผมคิดว่าควรแปลตรงตัวเลยว่า "เราได้สองเหรียญทองได้ไหม"

กรรมการตอบว่า "It's possible."

แล้วภาพสุดแสนประทับใจก็เกิดขึ้น แทมเบรีกระโดดตัวลอยเข้ากอดบาร์ชิมคู่แข่งของเขาที่ฟัดกันมาอย่างกินกันไม่ลง ทั้งคู่ครองเหรียญทองร่วมกัน โดยไม่มีเหรียญเงิน

ผู้ชนะกอดผู้ชนะ

เกมนี้ไม่มีผู้แพ้

...

3
บาร์ซิมให้สัมภาษณ์ว่า "ผมมองเขา เขามองผม เราเข้าใจกันทันที เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม เราซ้อมหนักเหมือนกัน และความฝันของเราเป็นจริงร่วมกันได้ด้วยสปิริตของนักกีฬา"

ส่วนแทมเบรีนั้นเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บยาวนานหลายปี เขาพลาดการแข่งโอลิมปิกครั้งที่แล้ว ฝันอยากคว้าเหรียญทองในครั้งนี้ แล้วการเดินทางยาวไกลก็พาเขามาถึงจุดหมาย

น่าประทับใจยิ่งขึ้นอีกทีเป็นการถึงจุดหมายพร้อมกันสองคน กองเชียร์ทั้งสองฝั่งเฮพร้อมกัน เป็นชัยชนะที่ไม่มีผู้แพ้

...

4
การแข่งขันครั้งนี้คงอยู่ในความทรงจำของผู้ชมไปอีกนาน มันทำให้นึกทบทวนถึงความหมายของ 'ชัยชนะ' ว่ามันหมายความว่าเราต้องเป็น 'ที่หนึ่ง' แค่คนเดียวจริงหรือ

บางการแข่งขัน คู่ต่อสู้ที่เก่งที่สุดก็คือเพื่อนที่ดีที่สุด เพราะเขาช่วยให้เรารีดเค้นศักยภาพสูงสุดออกมา เมื่อถึงจุดหนึ่งอาจไม่จำเป็นต้องแข่งกันเพื่อเป็นผู้ชนะหนึ่งเดียว แต่เราสามารถ 'ชนะไปด้วยกัน' ได้

คำถามว่า "เราได้สองเหรียญทองได้ไหม" จึงเป็นคำถามที่หลุดกรอบของ 'นักแข่ง' และภาพที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นยืนยันให้เห็นว่าทั้งคู่ได้กลับบ้านไปคนละสองเหรียญทองจริงๆ

หนึ่งเหรียญคือความสุขที่คล้องคอตัวเอง

อีกหนึ่งคือความสุขที่ได้เห็นคู่แข่งของตัวเองมีความสุข

เชื่อว่านักกีฬาทั้งสองคนต้องจดจำการแข่งขันครั้งนี้ไปตลอด

ขอบคุณทั้งคู่ที่ทำให้เปลี่ยนความคิดเรื่องการเอาชนะคะคานไปมากมาย เราชนะไม่ได้หมายความว่าเขาต้องแพ้ เราเก่งไม่ได้หมายความว่าเขาต้องห่วยกว่า เราชนะ เขาก็ชนะด้วย เราเก่ง เขาก็เก่งด้วย ก็เป็นไปได้ หากเป็นเช่นนั้น ในทุกสนามที่ลงไปแข่งเราย่อมมีโอกาสได้เหรียญทองมากกว่าหนึ่งเหรียญ

เมื่อไม่ได้อยากเป็นผู้ชนะหนึ่งเดียว เราจะร่วมดีใจกับคนเก่งคนอื่นๆ ที่ชนะในแบบที่แตกต่างไป เก่งในแบบที่แตกต่างไป ในธุรกิจการงานไม่จำเป็นต้องฟาดฟันกันเพื่อเป็น 'ที่หนึ่ง' เราแข่งกันเพื่อดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของเราออกมา

สนามแข่งที่ไม่ฟาดฟันกันจนต้องลงเอยด้วยการมี 'ผู้แพ้' มีอยู่จริง

ไม่ต้องชนะกัน แต่ชนะไปด้วยกัน

ไม่ต้องมีหนึ่งคนเสียน้ำตา แต่มีสองรอยยิ้ม

คำตอบของกรรมการยังก้องอยู่ในหู "It's possible."

---